918kissfree

• qS47dplAWb
• 2024-06-07 00:38:14

918kissfree

บริษัท เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ 7UP ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.62 มีมติอนุมัติการเข้าร่วมทุนในโครงการโรงไฟฟ้าประชารัฐ สำหรับพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยบริษัท เฟอร์รั่ม เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด จะเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท อีโค เอ็นเนอร์ยี กรุ๊ป จำกัด ในสัดส่วน 76.92% จากนางสาวสุญาณี สุวรรณยศ เป็นจำนวน 122,266,665 หุ้น จากนายธนภูมิ ปัญญาพฤฒิโชติ จำนวน 8,500,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 0.3823 บาท คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 50 ล้านบาท

ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” SISB ประเมินราคาเป้าหมาย 9.20 บาท เดือนส.ค.เป็นเดือนของปีการศึกษาใหม่ เบื้องต้นคาด Utilization rate ไตรมาส 3/62 น่าจะอยู่ที่ 62.5% เพิ่มจาก 61.5% ในไตรมาส 2/62 คิดเป็นจำนวนนักเรียนที่น่าจะเพิ่มขึ้น 200 คนในงวด 9 เดือนแรกปี 2562 (เป้าทั้งปี 200-250 คน) เมื่อบวกกับการขึ้นค่าเทอมตามปกติ คาดกำไรไตรมาส 3/62 น่าจะทำได้ 60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 115% เมื่อเทียบจากปีก่อน และจะคิดเป็น 72% ของทั้งปีที่คาด

“ในปัจจุบัน การพัฒนาช่องทางออนไลน์ไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นทางรอด เราจึงมุ่งพัฒนาประสบการณ์ของผู้บริโภค เพื่อมุ่งไปสู่การสร้างประสบการณ์ไร้รอยต่อ Customer Seamless Experience ตามเป้าหมายของซาบีน่า ซึ่งที่ผ่านมาเราเน้นย้ำถึงคุณภาพของสินค้า นวัตกรรม และฟังก์ชั่นการใช้งานเป็นหัวใจสำคัญ เพื่อที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุดในทุกช่วงวัย ควบคู่กับการสร้างสรรค์แคมเปญทางการตลาดรูปแบบใหม่ๆ เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม และการจดจำแบรนด์ในใจผู้บริโภคอยู่เสมอ

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า กลต.ขอให้ผู้ถือหุ้น บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NEWS ศึกษาข้อมูลและไปใช้สิทธิออกเสียงในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นวันที่ 24 กรกฎาคม 2563 กรณีบริษัทจะซื้อหุ้นสามัญและสิทธิเรียกร้องในหนี้เงินกู้ของบริษัท เว็ลธ์ เวนเจอร์ส จำกัด (Wealth Ventures) ซึ่งที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเห็นว่า มีความสมเหตุสมผลในการทำรายการ แต่ราคาซื้อหุ้นไม่เหมาะสม ดังนั้น ผู้ถือหุ้นไม่ควรอนุมัติการทำรายการในครั้งนี้

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า สำหรับแนวโน้มการส่งออกของไทยในเดือนพ.ค. โดยคาดว่าจะไม่ติดลบแล้ว หลังจากที่เดือนเม.ย.การส่งออกติดลบลดลงมาอยู่ที่ -1.7% ซึ่งคาดว่าไตรมาส 2 ของปีนี้การส่งออกจะปรับตัวดีขึ้นกว่าไตรมาสแรกที่ติดลบกว่า 4% ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบจากที่ช่วงนั้นเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินของจีน และญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าในลำดับต้นๆ ของไทย ดังนั้นจึงต้องรออีกสักระยะหลังจากที่เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลงจึงจะทำให้การส่งออกของไทยกลับมาดีขึ้นได้