นายธีรวิทย์ บุษยโภคะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลาสติค และหีบห่อไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TPAC เปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้ปีนี้น่าจะลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน จากปีก่อนทำได้ 1,686.20 ล้านบาท ขณะที่ 9 เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 1,212 ล้านบาท เป็นผลมาจากราคาเม็ดพลาสติกที่ลดลง ส่งผลต่อราคาสินค้าที่ขายให้ลดลงตามไปด้วย โดยปรับตัวลดลงราว 10% แต่ปริมาณการขายยังคงเพิ่มสูงขึ้น และต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง ทำให้กำไรสุทธิสูงขึ้นมาที่ราว 100 ล้านบาท จากปีก่อน 93.39 ล้านบาท เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ประกอบกับยอดการผลิตสูงขึ้น โดยคาดอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้น่าจะอยู่ที่ราว 10%
ด้านภาพรวมครึ่งปีหลังปีนี้ คาดว่าการแข่งขันทางด้านการตลาดจะสูงขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อได้ทันที หากโครงการที่เลือกไว้แล้วมีกิจกรรมส่งเสริมการขายที่น่าพึงพอใจ ดังนั้น การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในแต่ละโครงการจึงถือเป็นปัจจัยสำคัญหลักแก่กลุ่มลูกค้าที่มีความพร้อมทางด้านการเงิน เพื่อนำมาพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อที่พักอาศัยของตนเองในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ขณะที่ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทเตรียมเปิดตัวงานขายอีก 5 โครงการใหม่ บนทำเลที่มากศักยภาพ คิดเป็นมูลค่าโครงการประมาณ 1 หมื่น ล้านบาท
ในส่วนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จำแนกตามยุทธศาสตร์จำนวน 6 ยุทธศาสตร์ 1 รายการ โดยยุทธศาสตร์ที่ 1 ด้านความมั่นคงได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายไว้เป็นจำนวนทั้งสิ้น 428,190.6 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 13.4 ของวงเงินงบประมาณ ยุทธศาสตร์ที่ 2 ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายไว้เป็นจำนวน 380,803.1 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 11.9 ของวงเงินงบประมาณ ยุทธศาสตร์ที่ 3 ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายไว้เป็นจำนวน 571,073.8 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 17.8 ของวงเงินงบประมาณ
สูตร ฟรี sa
lY8qFsfbB5