โดยผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าวมีกำไรเพิ่มขึ้น โดยมีสาเหตุหลักมาจากการลดลงของราคาวัตถุดิบในปีนี้ ประกอบกับเสถียรภาพในการผลิตที่บริษัทฯให้ความสำคัญในการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยปริมาณขายของผลิตภัณฑ์หลักเพิ่มขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากการผลิตที่เต็มประสิทธิภาพ ช่วยลดผลกระทบจากราคาและค่าเงินบาทลงได้บางส่วน
ตลาดภาคเช้าปรับลดลงเล็กน้อย ในทิศทางเดียวกันกับตลาดรอบบ้าน โดยหุ้นที่ Outperform ตลาดในภาคเช้าเป็นหุ้นกลุ่ม MAI ขณะที่หุ้นกลุ่มที่กดดันตลาดคือกลุ่มพลังงานที่ถูกขายก่อนเข้าสู่การประชุม OPEC ในวันที่ 5 มิ.ย.ปิดตลาดภาคเช้าดัชนีเปลี่ยนแปลง -2.84 จุด (-0.19%) มาอยู่ที่ 1,479.23 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1.7 หมื่นล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า ตลาดฯมีโอกาสที่จะฟื้นตัวได้ เนื่องจากบ้านเราไม่ได้มีปัจจัยที่น่ากังวล และสัปดาห์หน้าก็จะมีเรื่องคลายล็อกดาวน์ เฟส 3 ด้วย ซึ่งครอบคลุมกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กว้างขึ้น ทำให้น่าจะสร้าง Sentiment บวกได้ ซึ่งบ้านเราตอนนี้ก็ถือว่าควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ได้ค่อนข้างดี
addscore 888
FdxHleLbfN