เครดิต ฟรี 30 กด รับ เอง

เครดิต ฟรี 30 กด รับ เอง

• v1pFrxTAON
• 2024-05-16 18:26:10

เครดิต ฟรี 30 กด รับ เอง

โดยในปีนี้บริษัทเตรียมเงินลงทุน 200 ล้านบาท รองรับการพัฒนาระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจร ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ แบ่งเป็น การใช้เงินประมาณ 60 ล้านบาท สำหรับการเพิ่มจำนวนรถบรรทุกหัวลาก-หางลาก เพื่อรองรับบริการขนส่งสินค้าทางบก ส่วนอีก 60 ล้านบาท จะใช้สำหรับปรับปรุงอาคารและพื้นที่ศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้า บนพื้นที่ขนาด 2,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับพันธมิตรทางธุรกิจ สำหรับรองรับบริการขนส่งสินค้าผ่านชายแดน โดยเฉพาะการขยายตลาดไปในกลุ่มประเทศ CLMV ทั้งกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม

นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NDR เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 60 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 10-15% จากปีก่อน โดยมุ่งเน้นการขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งตลาดในประเทศจะเน้นการขยายฐานทั้งตัวแทนจำหน่ายและผู้บริโภค ขณะที่ตลาดต่างประเทศจะเน้นที่ประเทศอินเดียซึ่งยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก และขยายไปประเทศใหม่ๆเพิ่มขึ้น คาดว่าปีนี้สัดส่วนรายได้จากในประเทศและต่างประเทศจะใกล้เคียงปีก่อน โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ระดับ 50 : 50

ทั้งนี้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงสุดในรอบ 9 เดือน หลังบริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์รีลัคคุมะ (Rilakkuma) ได้ชี้แจงว่า บริษัทไม่ได้มอบหมายให้ผู้ใดทำการจับลิขสิทธิ์ผิดกฎหมายแต่อย่างใดตามข่าวนักเรียนหญิงอายุ 15 ปี รับทำกระทงลายการ์ตูน และถูกจับกุมข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ด้วยการล่อซื้อ เรียกค่าปรับเป็นค่าลิขสิทธิ์ 50,000 บาท ซึ่งเป็นประเด็นที่ถูกตั้งข้อสังเกตและวิพากษ์วิจารณ์กันในวงกว้างถึงความไม่โปร่งใสจากการล่อซื้อ ซึ่งก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

นางรัตนา มะโนมงคลกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AS เปิดเผยว่าคาดว่าผลการดำเนินงานของบริษัทจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรสุทธิได้ตั้งแต่ปี 60 เป็นต้นไป หลังจากที่มีผลขาดทุนสุทธิตั้งแต่ปี 57 ขณะที่ในงวด 9 เดือนแรกปีนี้มีผลขาดทุนสุทธิ 149.74 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุน 197.78 ล้านบาท โดยมองว่าในปีหน้าจะกลับมามีกำไรใกล้เคียงกับปี 55 ที่ทำได้ราว 294 ล้านบาท และจะทำให้ผลขาดทุนสะสมที่มีอยู่ราว 1,000 ล้านบาท ปรับตัวลดลงอีกด้วย

โดยในปีนี้บริษัทเตรียมเงินลงทุน 200 ล้านบาท รองรับการพัฒนาระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจร ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ แบ่งเป็น การใช้เงินประมาณ 60 ล้านบาท สำหรับการเพิ่มจำนวนรถบรรทุกหัวลาก-หางลาก เพื่อรองรับบริการขนส่งสินค้าทางบก ส่วนอีก 60 ล้านบาท จะใช้สำหรับปรับปรุงอาคารและพื้นที่ศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้า บนพื้นที่ขนาด 2,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับพันธมิตรทางธุรกิจ สำหรับรองรับบริการขนส่งสินค้าผ่านชายแดน โดยเฉพาะการขยายตลาดไปในกลุ่มประเทศ CLMV ทั้งกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม