“ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นการพัฒนาคอนโดมิเนียม Low-rise ภายใต้แบรนด์ “The Teak” โดยในปี 2562 บริษัทวางแผนที่จะเปิดขายโครงการใหม่ ( Pre-sale ) โดยเฉลี่ยไตรมาสละ 1 โครงการ ซึ่งแต่ละโครงการจะมีมูลค่าประมาณ 350-400 ล้านบาท โดยจะเน้นทำเลย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD: Central Business District) เป็นหลัก ซึ่งจะมีระยะห่างจากรถไฟฟ้าไม่เกิน 1 กิโลเมตร” นายสัญชัย กล่าว
มองว่า WORK อยู่ระหว่างการปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งมองว่ารายได้และกำไรสุทธิจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปตั้งแต่ไตรมาส3/61 ขณะที่คาดว่าจะได้เห็นการฟื้นตัวของกำไรสุทธิอย่างจริงจังเร็วสุดในปี 2019 ดังนั้นยังคงคำแนะนำเพียง ขาย จนกว่าเราจะเห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน ปัจจุบัน WORK เทรดอยู่ที่ PER 34.3x ถือว่ายังคงไม่น่าสนใจในระยะสั้น
SYNEXผ่านยืน 10.10 มีโอกาสปิด gap เก่าได้ปิด 10.10แนวรับ 9.80 / 9.60แนวต้าน 10.10 / 10.40Cut loss 9.60แท่งเทียนปรับตัวขึ้นผ่านยืนเส้นกลาง Bollinger bandที่ 9.80 เป็น Buy Sig. สนับสนุนด้วยปริมาณการซื้อขานที่เพิ่มขึ้นเป็นสัญญาณบวกระยะสั้นทดสอบยืนแนวต้าน 10.10 ผ่านยืนมั่นคงมีโอกาสปรับตัวขึ้นปิด gap เก่าที่ 10.40 ขณะที่ Slow sto.+RSI ที่ชี้ขึ้นเป็นโมเมนตัมบวกต่อราคา
“ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นการพัฒนาคอนโดมิเนียม Low-rise ภายใต้แบรนด์ “The Teak” โดยในปี 2562 บริษัทวางแผนที่จะเปิดขายโครงการใหม่ ( Pre-sale ) โดยเฉลี่ยไตรมาสละ 1 โครงการ ซึ่งแต่ละโครงการจะมีมูลค่าประมาณ 350-400 ล้านบาท โดยจะเน้นทำเลย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD: Central Business District) เป็นหลัก ซึ่งจะมีระยะห่างจากรถไฟฟ้าไม่เกิน 1 กิโลเมตร” นายสัญชัย กล่าว
มองว่า WORK อยู่ระหว่างการปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งมองว่ารายได้และกำไรสุทธิจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปตั้งแต่ไตรมาส3/61 ขณะที่คาดว่าจะได้เห็นการฟื้นตัวของกำไรสุทธิอย่างจริงจังเร็วสุดในปี 2019 ดังนั้นยังคงคำแนะนำเพียง ขาย จนกว่าเราจะเห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน ปัจจุบัน WORK เทรดอยู่ที่ PER 34.3x ถือว่ายังคงไม่น่าสนใจในระยะสั้น
บา คา ร่า ฝาก ขั้น ต่ำ 50
E35Ojpos8x