อุปกรณ์ แล ป เครื่อง แก้ว

• a5pDTbjm9Y
• 2024-05-25 11:47:01

อุปกรณ์ แล ป เครื่อง แก้ว

ด้าน บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ ซื้อ ESSO ให้ราคาเป้าหมาย 17 บาท รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/60 ที่ 3.1 พันล้านบาท (กำไรต่อหุ้น 0.89 บาท) เทียบกับไตรมาส 3/59 และไตรมาส 2/60 ที่มีผลขาดทุน (ทั้งสองไตรมาสมีผลขาดทุนจากสต๊อกและการปิดซ่อมบำรุง) หากไม่รวมกำไรจากสต๊อก คาดว่ากำไรปกติของบริษัทจะอยู่ที่ 2.0-2.2 พันลบ. กำไรสุทธิและกำไรปกติสูงกว่าที่คาด เชื่อว่าแนวโน้มผลประกอบการที่แข็งแกร่งและฐานะการเงินที่ดีขึ้นจะช่วยหนุนการจ่ายเงินปันผลหลังประกาศผลประกอบการไตรมาส4/60 (ต้นปี 61)

ทั้งนี้ประเด็นดังกล่าวถือว่าเป็นปัจจัยที่จะส่งผลดีต่อ บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AJA ผู้ประกอบธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายใต้เครื่องหมายการค้า AJ เนื่องจากบริษัทมีแผนที่จะนำเข้า และจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า (EV : Electric Vehicle) ติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (Charging Station) ซึ่งการปรับภาษีเหลือ 0% จะส่งผลดีต่อผู้นำเข้าในด้านของต้นทุน ขณะที่ราคารถยนต์ไฟฟ้าจะมีราคาถูกเมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน จึงคาดว่าจะส่งผลดีต่อยอดขายในอนาคต

บริษัท ชาญอิสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CI ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัท ครั้งที่ 1/2562 มูลค่าไม่เกิน 800 ล้านบาท อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2565 มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 6.00 ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายแก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ ระหว่างวันที่ 22-24 เม.ย.62 โดยมี บล.โกลเบล็ก บล.เอเชียพลัส และบล.เคที ซีมิโก้ เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในครึ่งปีหลัง กลุ่มไฟแนนซ์เป็นกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์ เนื่องจากเมื่อดอกเบี้ยลดลง ต้นทุนของกลุ่มนี้ก็จะไม่ขึ้นแน่นอน และอาจปรับลดลง โดยมองว่าบริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI น่าสนใจที่สุดในกลุ่ม เพราะปีหน้าจะมีหุ้นกู้ที่ครบกำหนดประมาณ 14,000 ล้านบาท เมื่อโลว์โอเวอร์ใหม่ต้นทุนจึงลดลง ขณะที่ P/E ปัจจุบันเทรดกันน้อยที่สุดในกลุ่ม ส่วนบริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC และบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC น่าสนใจรองลงมา

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า คงมุมมอง Positive ต่อแนวโน้มผลประกอบการ และเป็น Big cap ที่ยังเห็นการเติบโตได้ดี และเป็นตัวเลือกที่ดีในกลุ่มวัสดุก่อสร้างเทียบเคียง TASCO บริษัทยังทำได้ดีในภาวะที่อุตฯก่อสร้างเพียงประคองตัว องค์ประกอบหนุนกำไรยังแข็งแรง ทั้งรายได้เพิ่มและอัตรากำไรขยายตัวจากเงินบาทแข็งค่าและคุมค่าใช้จ่ายได้ดี ประเมินกำไรไตรมาส 3/62 490 บาท (+22% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, +3% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) และคาดยังเติบโตระดับ Double digit growth ต่อในไตรมาส4/62 แนะ ซื้อ