สล อ ต ได้ เงิน จริง

• 1qbUaVrvYC
• 2024-09-29 07:20:03

สล อ ต ได้ เงิน จริง

อนึ่งก่อนหน้านี้ ADVANC มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 100 ของกำไรสุทธิ ซึ่งการปรับนโนบายปันผลในครั้งนี้ คาดว่าสาเหตุมาจากการที่บริษัทต้องการใช้เงินลงทุนค่อนข้างมาก โดยเฉพาะเรื่อง 4G ซึ่งจะต้องใช้ต้นทุนสูง ทำให้บริษัทมีรายจ่ายที่สูงขึ้นจึงต้องมีการหั่นเงินปันผลเหลือ 70% ขณะที่การปรับนโนบายปันผลลงครั้งนี้จะกระทบต่อบริษัทแม่ นั่นคือ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCHที่เป็นโฮลดิ้ง เพราะที่ผ่านมา ADVANC จ่ายปันผลในอัตราที่สูง การปรับลงครั้งนี้จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อกำไรของบริษัทแม่

ด้าน นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงค่อนข้างจะสอดคล้องกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบคละกัน โดยผลโหวตร่างข้อตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ไม่น่าจะมีผลต่อตลาดฯมาก แต่นักลงทุนให้ความกังวลเกี่ยวกับการเลือกตั้งในประเทศที่ยังไม่กำหนดวันเลือกตั้ง และยิ่งล่าช้าก็ยิ่งมีความกังวลมากขึ้น ทำให้มีผลต่อตลาดหุ้นไทยที่จะเห็นได้ว่าในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาดูอ่อนกว่าตลาดต่างประเทศ

โดย นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยจะขยับขึ้นต่อในเช้านี้ หลังคลายความกังวลต่อสถานการณ์ซีเรีย แต่การฟื้นตัวของดัชนีน่าจะยังอยู่ในกรอบจำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังรอดูการประกาศตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 1/61 ของจีนในช่วงเช้าวันนี้ โดยตลาดคาดการณ์ว่า GDP จะขยายตัวราว 6.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งชะลอตัวลงจากระดับเติบโต 6.8% ในไตรมาส 4/60 ซึ่งหากออกมาตามคาดก็จะยังเป็นเชิงบวกต่อตลาดเพราะยังมี GDP เติบโตในระดับสูงอยู่

นายวิทยา ฉายสุวรรณ ประธานคณะกรรมการ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EASTW เปิดเผยว่า บริษัทคาดในช่วงครึ่งปีหลังแนวโน้มการเติบโตของการใช้น้ำดิบ และน้ำประปาจะยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหลักจากการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยว และการขยายตัวของเมืองในภาคตะวันออก ประกอบกับการที่กลุ่มบริษัทได้เข้าซื้อหุ้น 74.19% ในบริษัท เอ็กคอมธารา จำกัด จากบมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) ที่แล้วเสร็จในไตรมาส 3/58 ทำให้มีสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มเป็น 90.07% นั้นจะเริ่มรับรู้กำไรเพิ่มเข้ามาในไตรมาส 4/58

โดยการประมูลซองราคาที่เสร็จสิ้นไปแล้ว ผลปรากฏหว่ากลุ่มเจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง ได้เสนอราคา 117,227 ล้านบาท ส่วนกลุ่มกิจการร่วมค้า บีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) เสนอราคา 169,934 ล้านบาท เทียบกับวงเงินที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ 119,425 ล้านบาท ดังนั้นกลุ่มเจริญโภคภัณฑ์ เสนอราคาต่ำสุด หรือเสนอวงเงินที่รัฐอุดหนุนน้อยที่สุด เมื่อเทียบเป็นมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (Net Present Value) โดยคาดจะสรุปในกลางเดือน ม.ค.62 และส่งสัญญาให้สำนักงานอัยการสูงสุด ก่อนจะนำเสนอครม.และลงนามในสัญญาได้ภายใน 31 ม.ค. 62 ตามกำหนดการ