หวย หุ้น v2
โดยบริษัทมีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่งจะเน้นสินค้ากลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพตามกระแสความนิยมของโลก และสินค้ากลุ่มแต่งกลิ่น โดยเฉพาะกลิ่นหอม หลังจากมียอดคำสั่งซื้อเข้ามามากขึ้น ส่วนโรงงานในอินโดนีเซีย ได้กลับมาเปิดในช่วงไตรมาส 3/63 คาดจะรองรับออเดอร์ได้มากขึ้น ขณะที่โรงงานในเวียดนาม คาดจะเปิดดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายในปลายปี 63 ทั้งนี้บริษัทเตรียมเปิดสำนักงานแห่งใหม่ในสิงคโปร์เร็วๆ นี้ ขณะที่ธุรกิจโรงแรมจะกลับมาดีขึ้นช่วงไตรมาส 4/63 ดังนั้นทั้งปี 63 คาดรายได้จะเติบโตตามเป้าหมาย 10-12% จากปีก่อน
โดยผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าว มีกำไรลดลง เนื่องจากผลกระทบจากสต๊อกน้ำมันลดลง 3 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เป็นผลจากค่าการกลั่นที่ลดลงโดยได้รับแรงกดดันจากส่วนต่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ปรับลดลง โดยเฉพาะส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซินที่ปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากภาวะอุปทานล้นตลาด รวมถึงส่วนต่างราคาน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานกับน้ำมันเตาที่ปรับตัวลดลงค่อนข้างมากจากอุปทานในเอเชียที่ปรับตัวสูงขึ้น แม้ส่วนต่างราคาสารพาราไซลีนกับน้ำมันเบนซิน 95 จะปรับเพิ่มขึ้นก็ตาม ส่งผลให้กลุ่มไทยออยล์มี EBITDA ลดลง 470 ล้านบาท
ทั้งนี้ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” NRF ราคาเป้าหมายใหม่ 8.30 บาท เพื่อให้สะท้อนการเติบโตในระยะกลาง-ยาวได้เหมาะสมยิ่งขึ้น และปรับกำไรปี 63-64 ขึ้น 52%,7% ตามลำดับจากกำไร 9 เดือนคิดเป็น 94% ของกำไรทั้งปีของบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) โดยมีมุมมองเชิงบวกต่อ NRF จากการเพิ่งเริ่มต้นเข้าสู่ Growth state ขยายกำลังการผลิตอย่างมีนัยยะ ประกอบกับธุรกิจใช้ R D มี Barrier to Entry รวมถึงการเกาะไปกับเทรนด์สุขภาพและสิ่งแวดล้อมที่มีความยั่งยืน เหมาะแก่การลงทุนระยะยาว
หวย หุ้น v2 ฝาก 20 รับ 100 วอ เลท joker
1xJCUBdtLG