ทดลอง ปั่น ส ล๊ อ ต

• dUgf1uNtQP
• 2024-09-30 21:31:16

ทดลอง ปั่น ส ล๊ อ ต

โดยวันนี้ (28 ม.ค.) บริษัทได้รับแจ้งจาก T S Global Holdings Pte. Ltd. (TSGH) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ว่า TSGH ได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นกับ Hebsteel Global Holding Pte. Ltd.  ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นทั้งหมดโดย HBIS Group Co., Ltd. (HBIS) โดยขายหุ้นที่ TSGH ถืออยู่จำนวน 5.72 พันล้านหุ้น คิดเป็น 67.9% ให้แก่ผู้ซื้อ ซึ่งจะจัดตั้งขึ้นใหม่ในประเทศสิงคโปร์ โดยนิติบุคคล ซึ่ง HBIS และ TSGH มีอำนาจควบคุมในสัดส่วน 70:30 โดยหุ้นที่จำหน่ายคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 4.52 พันล้านบาท หรือ 0.79 บาท/หุ้น

นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า ไทยแอร์เอเชียกลับมาให้บริการเส้นทางบินภายในประเทศแล้วตั้งแต่เดือน พ.ค.63 และได้เพิ่มความถี่เที่ยวบินอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเดือน ก.ค.นี้ จะกลับมาให้บริการครบ 23 จุดหมายปลายทางแล้ว รวมถึงเส้นทางบินข้ามภาค เช่น เชียงใหม่ หาดใหญ่ เชียงใหม่-พัทยา (อู่ตะเภา) หาดใหญ่-พัทยา (อู่ตะเภา) และขอนแก่น-หาดใหญ่ รวมทั้งสิ้น 25 เส้นทางบิน และมีเที่ยวบินให้บริการ 68 เที่ยวบิน (ไป-กลับ) ต่อวัน เพื่อกระตุ้นการเดินทาง ส่งเสริมภาคธุรกิจ

โดยปัจจุบันมีลูกค้า 55 ราย เพิ่มขึ้นจาก 37 รายในปี 2562 ซึ่งเป็นลูกค้าที่อยู่ในกลุ่ม Top Brand เช่น กลุ่ม CP กูลิโกะ มิตรผล Thai Union และ NIPRO เป็นต้น ประกอบกับกลยุทธ์การเลือกผลิตสินค้าที่มีอัตรากำไรสูงเป็นหลัก โดยล่าสุดได้ขยายไปยังกลุ่ม Medical (NIPRO) คือ บรรจุภัณฑ์สำหรับเครื่องมือแพทย์ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีการใช้สูง (ใช้จำนวนมากและใช้แล้วทิ้ง) โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 และคาดว่าเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตสูง โดยกลุ่ม Medical เป็นบรรจุภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูง ซึ่งจะรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/2563 เต็มไตรมาส

โดยวานนี้ (8 มี.ค.) TCB แจ้งว่าบริษัท เอส เค ไอ คาร์บอนแบล็ค (มอริเซียส) จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ได้ยื่นแบบประกาศเจตนาในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ (แบบ 247-3) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อจะทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท หลังจากที่เอส เค ไอฯ ได้หุ้น TCB มาอีกจำนวน 23.3 ล้านหุ้น หรือราว 7.7% ส่งผลให้ถือหุ้นใน TCB เพิ่มเป็น 28.75% ทำให้ต้องทำคำเสนอซื้อหุ้น TCB ที่เหลืออยู่ทั้งหมด 71.25% ในราคาที่คาดว่าจะเสนอซื้อที่ 22 บาท/หุ้น

โดยปัจจุบันมีลูกค้า 55 ราย เพิ่มขึ้นจาก 37 รายในปี 2562 ซึ่งเป็นลูกค้าที่อยู่ในกลุ่ม Top Brand เช่น กลุ่ม CP กูลิโกะ มิตรผล Thai Union และ NIPRO เป็นต้น ประกอบกับกลยุทธ์การเลือกผลิตสินค้าที่มีอัตรากำไรสูงเป็นหลัก โดยล่าสุดได้ขยายไปยังกลุ่ม Medical (NIPRO) คือ บรรจุภัณฑ์สำหรับเครื่องมือแพทย์ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีการใช้สูง (ใช้จำนวนมากและใช้แล้วทิ้ง) โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 และคาดว่าเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตสูง โดยกลุ่ม Medical เป็นบรรจุภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูง ซึ่งจะรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/2563 เต็มไตรมาส