สมัคร เน็ต ราย อาทิตย์ ดี แท ค

• P6LCSIFpqm
• 2024-09-29 14:22:04

สมัคร เน็ต ราย อาทิตย์ ดี แท ค

นายวรพันธ์ คาดว่ารายได้ในปี 60 จะขึ้นมาแตะที่ระดับ 2 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 10% จากปี 59 จากงานที่จะเพิ่มขึ้นในปลายปีนี้ และตั้งเป้าในปีหน้า บริษัทจะได้งานใหม่เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 3-4 หมื่นล้านบาท จากโครงการภาครัฐที่จะออกมามากในปีหน้า โดยโครงการก่อสร้างรถไฟไทย-จีน บริษัทสนใจเข้าร่วมรับงานก่อสร้าง และ โครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) กรุงเทพ-ระยอง น่าจะเปิดประมูลได้ก่อน ซึ่งบริษัทจะเข้าร่วมประมูลงานก่อสร้างเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีงานโครงการถไฟทางคู่ที่จะออกมาเพิ่มเติมด้วย

อีกทั้งประการสำคัญข้อมูลตามข่าวยังคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริงอย่างยิ่ง คือ ทั้ง Fullerton และ KPN EH ไม่ใช่ผู้ถือหุ้นของ บริษัทวินด์ แต่อย่างใด ดังนั้น จึงเห็นได้ชัดว่า ไม่ว่าผลคดีอนุญาโตฯ จะออกมาอย่างไรก็ไม่มีผลกระทบใดต่อบริษัทวินด์ หรือ ผู้ถือหุ้นของบริษัทวินด์เลย จึงขอให้ผู้ถือหุ้น หรือผู้เกี่ยวข้องกับบริษัทวินด์ ได้เข้าใจข้อมูลที่ถูกต้อง และ ไม่มีอะไรที่ต้องวิตกจากข่าวที่ปล่อยออกมาดังกล่าว รวมถึงกรณีที่เกิดขึ้น ไม่อาจเป็นความผิดอาญาในฐานใดดังที่กล่าวอ้างในข่าวได้เลย

โดยก่อนหน้านี้นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.อิชิตันกรุ๊ป (ICHI) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/63 น่าจะเติบโตกว่าไตรมาส 1/63 ที่มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 1,285.4 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 159.2 ล้านบาท เนื่องจากการขยายไลน์สินค้ากลุ่มเครื่องดื่ม ไปสู่น้ำดื่มอัลคาไลน์ผสมวิตามิน B รวม  PH PLUS 8.5 คาดจะเริ่มวางจำหน่ายได้ในช่วงเดือนมิ.ย.นี้ โดยสินค้าดังกล่าวมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 30% ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯ ปรับตัวดีขึ้น

อีกทั้งประการสำคัญข้อมูลตามข่าวยังคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริงอย่างยิ่ง คือ ทั้ง Fullerton และ KPN EH ไม่ใช่ผู้ถือหุ้นของ บริษัทวินด์ แต่อย่างใด ดังนั้น จึงเห็นได้ชัดว่า ไม่ว่าผลคดีอนุญาโตฯ จะออกมาอย่างไรก็ไม่มีผลกระทบใดต่อบริษัทวินด์ หรือ ผู้ถือหุ้นของบริษัทวินด์เลย จึงขอให้ผู้ถือหุ้น หรือผู้เกี่ยวข้องกับบริษัทวินด์ ได้เข้าใจข้อมูลที่ถูกต้อง และ ไม่มีอะไรที่ต้องวิตกจากข่าวที่ปล่อยออกมาดังกล่าว รวมถึงกรณีที่เกิดขึ้น ไม่อาจเป็นความผิดอาญาในฐานใดดังที่กล่าวอ้างในข่าวได้เลย

นอกจากนี้ สหรัฐอเมริกาน่าจะไม่ลดความช่วยเหลือทางการทหาร ทางเศรษฐกิจ ทางการศึกษาวิจัย เพราะไม่ต้องการลดบทบาทตัวเองในฐานะผู้นำโลก ซึ่งจะต่างจากนโยบายของโดนัล ทรัมป์ที่เน้น American First จึงตัดความช่วยเหลือด้านต่างๆ ต่อพันธมิตรและองค์กรระหว่างประเทศเกือบทั้งหมด และคาดว่าการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 และโรคระบาดอุบัติใหม่ ในระดับโลกจะดีขึ้นจากการที่สหรัฐฯน่าจะสนับสนุนองค์การอนามัยโลกมากขึ้น ขณะที่ที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำสหรัฐฯและผู้อำนวยการอนามัยโลกไม่ราบรื่น