• piGkUc5Fe3
• 2024-05-29 06:46:59

ขณะที่ในวันนี้ (2 ส.ค.) เส้นกราฟทั้ง 3 เส้นดังกล่าวได้ปรับตัวมาบรรจบกันเป็นวันแรก และมีความคล้ายคลึงกับการบรรจบกันของเส้นกราฟทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา จึงมีความเสี่ยงว่าตลาดหุ้นมีความเสี่ยงที่ปรับตัวลงแรงอีกครั้งหนึ่งได้ แต่จะปรับตัวลดลงมากน้อยเท่าไหร่ก็ต้องรอดูปัจจัยประกอบอื่นๆ ร่วมด้วยไม่ว่าจะเป็นปัจจัยทางการเมือง ปัจจัยต่างประเทศ และปัจจัยเศรษฐกิจในเวลานั้นๆ อีกด้วย

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) รอบที่ผ่านมาได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปีนี้ลงเหลือขยายตัว 2.8% สาเหตุสำคัญเป็นผลมาจากสงครามการค้าระหว่างประเทศที่มีผลกระทบรุนแรงต่อปริมาณการค้าโลก ขณะที่ไทยเป็นระบบเศรษฐกิจแบบเปิดต้องพึ่งพิงการส่งออกค่อนข้างมาก จึงทำให้การส่งออกของไทยได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก

ทั้งนี้ คาดว่าผลประกอบการของ CK ในปีนี้จะมีกำไรสุทธิประมาณ 2,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปี 58 โดยได้ประโยชน์จากโครงการไซยะบุรีส่วนเพิ่มที่คาดว่าจะบันทึกรายได้ในปีนี้ประมาณ 14,000 ล้านบาท ซึ่ง CK ยังมีวงเงินเหลือที่ยังไม่บันทึกอยู่อีก 12,000 ล้านบาท นอกจากนี้ CK ยังมีโอกาสได้งานในโครงการรถไฟฟ้า ซึ่งถ้าหากได้งานเข้ามามากก็มีโอกาสที่จะปรับเพิ่มประมาณการในปีหน้า 2560

โดย บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ (11 ม.ค.) ว่า แนะนำซื้อเก็งกำไร RP แนวรับ 6.90-6.70 แนวต้าน 7.20-7.25 , 7.50-8 หลังจากเข้ามาเทรดใหม่ราคาก็ปรับตัวลงมาลึกพอควร ก่อนที่ช่วงหลังจะมีลักษณะแกว่งทรงตัวได้ดีขึ้น พร้อมสัญญาณบวกจากการฟอร์มตัวของ Indicators ต่างๆ ช่วยสนับสนุน ทำให้คาดว่าถ้าราคาไม่ย้อนต่ำกว่าแนวรับข้างต้นอีก ก็มีสิทธิดีดขึ้นหาแนวต้านให้ทำกำไรตามรอบได้